ชื่อผู้ใช้นี้ไม่สามารถสั่งซื้อสินค้านี้ได้ ฉะนั้นท่านไม่สามารถสั่งซื้อหรือตรวจสอบราคาสินค้าได้ เพื่อให้ท่านสามารถดำเนินการสั่งสินค้าได้กรุณาสลับบัญชี หรือติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ที่หมายเลข 02 338 0200
ระบบกำลังประมวลผล กรุณารอสักครู่
Dear customer,
We are processing your request.
Please do not leave the session, this operation can take several minutes.
You will be informed when it is complete.
Thank you for your patience.

ออกจากระบบ
ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชม แล้วพบกันใหม่อีกครั้ง
ช่วยกรอง
ถ้าคนกำลังมองหาสินค้าที่เฉพาะเจาะจงตัวอย่างเช่นผลิตภัณฑ์สีเขียว, สินค้าผลิตตามหลักสรีระศาสตร์ ง่ายๆ เพียงแค่คลิกเลือกปรเภทของสินค้านั้น ซึ่งทำให้คุณได้ผลตามเงื่อนไขที่เลือก แน่นอนคุณสามรถเลือกได้หลายๆ เงื่อนไขพร้อมกันซึ่งจะทำให้คุณได้ผลลัพธ์มากขึ้นเช่นกัน ในทางกลับกันคุณสามารถแก้ไขเงื่อนไขได้ตามต้องการ
ต้องการความช่วยเหลือ?
02 338 0200
เวลา 8.00 - 18.00 น.
ติดต่อเราผ่านระบบออนไลน์
ข่าวประชาสัมพันธ์
Lyreco Newsroom
ติดตามข้อมูลข่าวสารล่าสุดและสาระดีๆ จากลีเรคโก
ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ด้วยการเลือกการจัดส่งรูปแบบใหม่ "ให้ลีเรคโกเลือกวันจัดส่ง"
ชุดป้องกันฝุ่นและสารเคมี (Coverall Chemical Protection) หรือที่หลายๆคนรู้จักกันในชื่อ ชุด Coverall หรือชุด PPE เป็นชุดที่ใส่เพื่อป้องกันฝุ่นและสารเคมีต่างๆ สำหรับผู้ที่ต้องทำงานในสถานที่ที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากของเหลวหรืออนุภาคในระดับที่ต่างกัน ในสถานการณ์ปัจจุบัน ชุดนี้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก เป็นตัวช่วยสำคัญและปลอดภัยสำหรับยุคนี้ที่มีทั้งฝุ่น PM 2.5 และเชื้อโรคที่กำลังระบาดอย่าง เชื้อไวรัสโควิด 19 (Covid-19) โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์หรือผู้ที่ต้องปฏิบัติงานสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย การมีชุดป้องกันที่มีคุณสมบัติปกป้องที่ดีเยี่ยมย่อมเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานดูแลผู้ป่วยได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ก่อนหน้านี้เราอาจคุ้ยเคยกับชุดคลุมปฏิบัติการอีกหนึ่งชนิดที่เรียกว่า ชุดกาวน์ (Gown) ชุดกาวน์ คือ ชุดคลุมป้องกันด้านหน้าและเปิดด้านหลัง ปกปิดท่อนแขนและหน้าอก ปลายแขนติดยางยืด สวมใส่เพื่อป้องกันการปนเปื้อนหรือหกกระเด็นของวัตถุ เช่น เชื้อโรคและสารอันตรายต่างๆ มีทั้งแบบที่ใช้แล้วทิ้ง ผลิตมาจากใยสังเคราะห์ โพลีโพรพิลีน หรือผลิตมาจากผ้าที่สามารถซักนำกลับมาใช้ใหม่ได้
ชุด Coverall หรือ ชุด PPE คือ ชุดที่ออกแบบเพื่อปกป้องทุกส่วนของร่างกายจากสภาวะแวดล้อมอันตรายและป้องกันการติดเชื้อ ออกแบบให้ตรงฮูด(ส่วนที่คลุมศีรษะ) ข้อมือ ข้อเท้า เป็นแบบรัดยาง หรือแบบยางยืด เย็บตะเข็บอย่างดี ไม่มีจุดรั่วไหล มีแถบปิดซิปอีกชั้น เพิ่มความปลอดภัย ซึ่งระดับการป้องกัน และความสบายในการสวมใส่จะขึ้นอยู่กับชนิดผ้า และชนิดตะเข็บ มีทั้งแบบที่ใช้แล้วทิ้งและสามารถทำความสะอาดแล้วนำกลับมาใช้ได้อีก แบบใช้แล้วทิ้ง ส่วนใหญ่ผลิตมาจากผ้าใยสังเคราะห์ โพลีโพรพิลีน (Polypropylene) เป็นหลัก ทอที่ระดับความหนาที่ต่างกัน บางประเภทมีการเสริมเส้นใยประเภทอื่น เช่น Spunbonded โพลีโพรพิลีน ทอร่วมกับ Meltbown โพลีโพรพิลีน หรืออาจมีการเคลือบด้วยฟิล์มชนิดต่างๆเพื่อเพิ่มการป้องกันละอองและอนุภาคต่างๆให้ดีมากยิ่งขึ้น ส่วนแบบที่นำกลับมาใช้ได้อีก ผลิตมาจาก โพลีเอสเตอร์ (Polyester)
ระดับการป้องกันจากข้อกำหนดของ EPA : Environmental Protection Agency
|
ระดับความเสี่ยง |
ชุดป้องกันระดับ |
|
Hot zone (สำหรับพื้นที่ที่มีสารเคมีรั่วไหล) |
A,B |
|
Warm zone (สำหรับพื้นที่ที่มีสารเคมีปนเปื้อน) |
B,C |
|
Cold zone (สำหรับพื้นที่ที่ปลอดภัยแต่ยังต้องเฝ้าระวัง) |
D |
ชนิดตะเข็บของชุดป้องกัน
เป็นการเย็บผ้า ที่นำผ้ามาต่อกันโดยใช้การเย็บแบบปกติ มักใช้ในชุดที่ใช้ป้องกันฝุ่นและละอองของเหลวที่ไม่มีแรงดัน หรือมีเล็กน้อย มีระดับการป้องกันในมาตรฐาน EN Type 5 และ Type 6
เป็นการเย็บผ้า ที่นำผ้ามาทบต่อกันและมีการนำผ้าอีกชิ้นมาปิดทับรอยต่อก่อน แล้วค่อยเย็บ เพื่อป้องกันของเหลวและสิ่งสกปรกเข้าตรงรอยต่อ ป้องกันละอองของเหลวที่มีแรงดัน เช่น จากการฉีดพ่นเคมีต่างๆ มักใช้ในชุดที่มีระดับการป้องกันในมาตรฐาน EN Type 4 และ Type 3
เป็นการเย็บผ้า ที่นำผ้ามาพับทบซ้อนทับกัน แล้วปิดทับด้วยเทปเชื่อมความร้อน เพื่อป้องกันของเหลวและแรงดันจากก๊าซต่างๆ มักใช้ในชุดที่มีระดับการป้องกันในมาตรฐาน EN Type 2 และ Type 1
เป็นการเย็บผ้า ที่นำผ้ามาพับทบซ้อนทับกัน แล้วปิดด้วยเทปเชื่อมความร้อน เพื่อป้องกันของเหลวและแรงดันจากก๊าซต่างๆ และเพิ่มเทปในส่วนภายในชุดอีกครั้งนึงด้วย มักใช้ในชุดที่มีระดับการป้องกันในมาตรฐาน EN Type 1
มาตรฐานในการพิจารณาประสิทธิภาพการปกป้องของชุด PPE
มาตรฐานควบคุมคุณภาพอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป
โดยมาตรฐานการทดสอบ “EN 14126” มีมาตรฐานย่อยอีก 5 มาตรฐาน ประกอบด้วย
มาตรฐาน ISO 16603: การตรวจสอบความต้านทานแรงดันของเลือดเทียม
มาตรฐาน ISO 16604: การตรวจสอบความต้านทานแรงดันของเลือดเทียมที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัส
มาตรฐาน ISO 22610: การตรวจสอบความต้านทานของเหลวที่ปนเปื้อนแบคทีเรีย
มาตรฐาน ISO 22611: การตรวจสอบการป้องกันละอองของของเหลวที่ปนเปื้อนแบคทีเรียในอากาศ
มาตรฐาน ISO 22612: การตรวจสอบความต้านทานอนุภาคปนเปื้อน
นอกจากชุด PPE ที่ป้องกันฝุ่นและสารเคมีแล้วยังมีชุด PPE ชนิดอื่นอีกส่วนใหญ่ผลิตมาจากผ้า ชุดประเภทนี้มักถูกเรียกว่า ชุดหมี เช่น ชุดหมีงานช่าง ส่วนของเสื้อและกางเกงเย็บติดเป็นตัวเดียวกัน มีซิปอยู่ด้านหน้า ทำจากผ้าเนื้อหนา ทนทานต่อการขีดข่วน แรงดึง และการฉีกขาด แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถระบายอากาศได้ดี เพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดความร้อนมากเกินไปขณะปฏิบัติงานเหมาะสำหรับงานไม้ งานไฟฟ้า งานก่อสร้าง งานที่เกี่ยวกับน้ำ งานซ่อมรถ งานเชื่อม งานประกอบเครื่องจักร และงานในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ชุดหมีช่างจะช่วยป้องกันลำตัว แขน และขา จากกระเด็นของชิ้นส่วน ฝุ่น น้ำมัน สี รวมไปถึงสะเก็ดไฟ แต่ไม่ช่วยป้องกันสารเคมีได้
ชุดหมีกันไฟ ที่สามารถป้องกันไฟได้ ตัวชุดผลิตจากเนื้อผ้าที่สามารถป้องกันไฟและไฟฟ้าสถิตได้ มีความสามารถในการกันไฟลาม ด้ายที่ใช้เย็บเป็นด้ายกันไฟ เสื้อผ้าประเภทนี้ใช้ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีความเสี่ยงต่อการระเบิดและไฟไหม้ มีแถบสะท้อนแสงในตัว เพื่อความปลอดภัย
มาตรฐานสำหรับชุดหมีกันไฟ คือ EN 1149 มาตรฐานชุดป้องกัน ในเรื่องคุณสมบัติป้องกันไฟฟ้าสถิต ป้องกันประกายไฟและการระเบิด ช่วยลดประจุไฟฟ้าสถิตของบุคลากรและการเกิดประกายไฟที่ติดไฟได้
มาตรฐานชุดนี้ประกอบด้วยหลายส่วน
EN 1149-1 ส่วนที่ 1: ความต้านทานพื้นผิว
EN 1149-2 ส่วนที่ 2: วิธีทดสอบสำหรับการวัดความต้านทานไฟฟ้าต่อความลึกของวัสดุ (แนวต้าน)
EN 1149-3 ส่วนที่ 3: การกระจากประจุไฟฟ้าสถิตจากพ้นผืวของวัสดุ
EN 1149-5 ส่วนที่ 5: ประสิทธิภาพวัสดุและข้อกำหนดการออกแบบ
หลักการเลือกชุดป้องกัน
1. เลือกชุดให้มีขนาดที่เหมาะสมกับผู้สวมใส่ ถ้าขนาดเล็กเกินไป อาจเกิดความอึดอัด เคลื่อนไหวไม่สะดวก ส่งผลต่อการปฏิบัติงาน ถ้าชุดมีขนาดใหญ่เกินไปมัน ทำให้สวมใส่แล้วไม่ฟิตพอดี เกิดช่องว่าง ทำให้ประสิทธิภาพการป้องกันลดลง อาจเผื่อให้ใหญ่กว่าขนาดตัวราวๆ 2-3 นิ้ว จะสวมใส่ได้สบาย ไม่อึดอัด และไม่ร้อน แต่ก็ไม่ใหญ่จนเกินไป
2. เลือกประเภทของชุด PPE ให้เหมาะสมกับงาน หากเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีก็ต้องใส่ชุดป้องกันสารเคมีโดยเฉพาะ เพราะชุดหมีช่างทั่วไป ไม่สามารถป้องกันการซึมผ่านของสารเคมีได้
การส่วมใสชุดป้องกัน กับโคโรน่าไวรัส (โควิด 19 - COVID19 )
จากหลักฐานในปัจจุบัน WHO หรือองค์การอนามัยโลกแนะนำให้ใช้ชุด PPE สำหรับการดูแลผู้ป่วยโควิด 19 เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากฝอยละอองและการสัมผัส ในกรณีที่ต้องสัมผัสกับผู้ติดเชื้อหรือผู้ที่มีความเสี่ยงสูง แนะนำให้ใช้ชุด PPE รุ่นที่ผ่านมาตรฐาน EN 14126 หรือมาตรฐานที่ผ่านสารทางชีวภาพและติดเชื้อ Type 5-6 เท่านั้น และมาตรฐาน ISO 16604 ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันไวรัส ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
พูดคุยกับเราผ่าน Webchat วันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่ 08.00-18.00 น. ลูกค้าสัมพันธ์ 02 338 0200 วันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่ 08.00-17.00 น.
ติดต่อเราผ่านศูนย์ช่วยเหลือ